วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เบื่องานประจํา ทําไงดี

"เบื่องานประจำ ทำไงดี"

ถ้าคนทำงานออฟฟิศคนไหน ไม่เคยมีคำถามนี้ เกิดขึ้นในหัวนี้ ผมต้องขอยกย่องจริงๆครับว่า คุณเป็นพนักงานดีเด่นที่บริษัทควรจะรักษาไว้ยิ่งชีพ หรือคุณเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีมากๆในการทำงาน และขอตอบว่าน่าอิจฉามาก ที่คุณไม่เคยเบื่องานประจำ ที่คุณทำเลย และถ้าเกิดคุณจับพลัด จับผลู ผ่านมาเห็นบทความนี้เข้าให้รีบปิด ไปอ่านอย่างอื่นเลยครับ อย่าอ่านให้ตัวเองลังเล หรือหดหู่เป็นอันขาด แต่ว่า ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีคำถามเกิดขึ้นในหัวว่า เบื่องานประจํา ทําไงดี บ่อยๆ แล้วล่ะก็ ลองผ่านข้อแนะนำของผมดูนะครับ

สาเหตุที่ผมเขียนบทความนี้ เพราะได้ยินน้องๆ เพื่อนๆที่ทำงานประจำหลายคนมาบ่น ว่า เบื่องานประจำ อยากออกไปทำธุรกิจส่วนตัว โอ้ว ผมได้แต่บอกว่า คุณคิดผิดนะครับ ถ้าอยากจะทำธุรกิจส่วนตัว เพราะว่า เบื่องานประจำนี่ คุณไม่ทราบหรอกนะครับว่า โลกของการทำธุรกิจเองนั้น มันโหดร้ายทารุณกว่าสิ่งที่คุณกำลังได้รับจากการทำงานประจำอยู่ไม่น้อย การที่คุณจะทำธุรกิจส่วนตัว เพราะเบื่องานประจำนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วย อยากให้ลองวิธีแก้เบื่อด้านล่างดูก่อน จะตัิดสินใจอะไร



1. ค่อยๆวิเคราะห์สาเหตุที่คุณเบื่องานประจำ - ก่อนที่จะคิดการใหญ่ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ลองค่อยๆนั่งลงและพิจารณาดูนะครับว่า อะไรที่ทำให้คุณเบื่อ อะไรในงานประจำที่ทำให้คุณเบื่อ บางคนเบื่อเพื่อนร่วมงาน บางคนเบื่อเจ้านาย บางคนเบื่อเนื้องาน ไม่เหมือนกันนะครับ หรือบางคนอาจจะเบื่อ มันทุกอย่างเลย ก็เป็นไปได้ แต่ในขึ้นตอนนี้ ขอให้่ค่อยๆคิดดูว่า ถ้าสิ่งใดขาดหายไปแล้ว คุณจะมีความสุขในการทำงานประจำที่นี่ขึ้นเป็นอันมาก ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก บางคนบอก เบื่อๆๆๆๆ แต่ไม่รู้เบื่ออะไร ถ้าลองมานั่งคิดวิเคราะห์ให้ดีแล้ว จะพบว่า เออ ไอ้สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขนี่มันมากมายเลยนะ เพื่อนก็ดี เจ้านายก็ดี แต่ติดที่ต้องนั่งรถไกลไปหน่อยเท่านั้น อะไรทำนองนี้

2. แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด -- หลังจากได้คำตอบออกมาแล้ว ว่าคุณเบื่ออะไร ต่อไปก็ต้องแก้ปัญหาครับ ให้ตรงจุด อาทิเช่น ถ้าคุณเบื่อ เพื่อนร่วมงาน ลองมองหาข้อดีในตัวเขา ลองคุยตีสนิทกับเขา ว่าเขาจะดีกับเราได้ไหม หรือเปิดใจคุยกับเขาไปเลย ถึงปัญหาที่เรารู้สึก ถ้าไม่ไหวจริงๆ ขอลองย้ายแผนกได้ไหม คุยกับหัวหน้าดู ถ้าแก้ปัญหาได้ตรงจุดแล้ว เราก็จะไม่ต้องหนีปัญหาโดยการลาออกนะครับ

3. ทำใจ -- ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่กำลังถามตัวเองว่า เบื่องานประจำ ทำไงดี ผมบอกได้เลยนะครับว่า คุณมีเพื่อนอีกเป็นร้อย เป็นพันล้านคนทั่วโลก คุณไม่เดินเดียวดายแน่นอน การที่คุณมีความรู้สึกแบบเดียวกับคนทั้งโลก ก็น่าจะทำให้คุณใจชื้นขึ้นบ้างว่า สิ่งที่คุณเผชิญอยู่มันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรกว่าคนอื่นหรอก เพียงแต่คุณทำใจให้ได้ แล้วยอมรับมัน ก้าวต่อไป ชีวิตคุณก็จะเป็นสุขได้ไม่ยาก ดีกว่าหนีปัญหาด้วยการลาออกนะครับ

สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่า คนที่อยากทำธุรกิจส่วนตัวนั้น อยากให้ทำเพราะอยากมีธุรกิจส่วนตัว หรือมีแรงบันดาลใจอะไรบางอย่าง ที่ไม่ผิดศีลธรรม เช่น อยากรวย อยากมีเบนซ์ อยากเที่ยวรอบโลก อยากมีอิสระ อย่างนี้คุณมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจที่คุณทำได้มากกว่า การที่คุณถามตัวเองว่า เบื่องานประจำ ทำไงดี แล้วก็หนีปัญหาลาออกมา โดยคิดว่า ทำธุรกิจส่วนตัวมันสบาย อย่างนี้ถ้าเกิดมันไม่สบายอย่างที่ฝันไว้ คุณจะแย่นะครับ

แต่ถ้าหากว่า คุณมั่นใจว่า คุณอยากจะลาออกจากงานประจำจริงๆ คุณจะไม่ถามตัวเองว่า เบื่องานประจำ ทำไงดี แต่คุณจะเริ่มเปลี่ยนคำถามแล้วครับว่า เบื่องานประจำ ทำอะไรดี การตั้งคำถามสำคัญนะครับ ถ้าคุณเริ่ม ถามคำถามที่สองแล้ว แสดงว่าคุณมาถูก blog แล้วครับ ลองอ่านบทความอื่นๆของผมดู เผื่อจะได้ไอเดียดีๆ ในการทำธุรกิจส่วนตัวมากมาย อย่างที่คุณคาดไม่ถึงจริงๆครับ

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำธุรกิจส่วนตัว อะำไรดี ทำแล้วรวย ตอนที่ 2: ธุรกิจอาหาร

เคยได้ยินคำพูดทำนองที่บอกว่า "ทำอะไรไม่ได้ไปขายเต้าฮวยดีกว่า" หรือ "อย่างมากก็ไปขายก๋วยเตี๋ยว"  อะไรทำนองนี้หรือเปล่าครับ คำพูดเหล่านี้สะท้อนความจริงและความไม่จริงบางอย่างนะครับ ความจริงประการหนึ่งในสังคมไทยก็คือ การขายอาหารการกินนั้น ทำได้ง่ายมากในประเทศไทย เพราะประเทศไทยของเรา ไม่มีระบบระเบียบอะไรมากมาย จะขายของกิน ก็ตั้งแผง ตั้งรถเข็น ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องขออนุญาตใครๆ อลุ้มอล่วยกันไปตามประสาไทยๆ ทำให้เราเห็นว่ามีหาบเร่ แผงลอยขายอาหารเต็มไปหมด

แต่สิ่งที่คนไทยอาจมองการขายของกินผิดไปหน่อยก็คือ เรามักคิดว่าทำอะไรไม่ได้ก็ไปขายของกิน ซึ่งความจริงแล้ว ธุรกิจอาหารนั้น เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในประเทศไทย ทำเม็ดเงินให้กับคนไทย และทำให้ธุรกิจหมุนเวียนมหาศาลมาก และคนรวยในประเทศไทย ตั้งแต่รวยธรรมดา จนถึงรวยมาก จิ้มหน้าไป ก็ขายของกิน หรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกินทั้งนั้นนะครับ ตั้งแต่คนขายก๋วยเตี๋ยวที่ขายดีๆ จนถึงเจ้าของภัตตาคาร ร้านอาหารดังต่างๆ คนขายวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับอาหาร และอื่นๆ ล้วนแล้วแต่สร้างความร่ำรวยขึ้นมาได้ง่ายมาก เพราะหลักการเบื้องต้นของการทำธุรกิจส่วนตัวก็คือ "ตลาด" และ ตลาดของกินนั้นกว้างที่สุดครับ เพราะไม่มีมนุษย์ผู้ใด ไม่กินและกินบ่อยที่สุด บ่อยกว่าซื้อเสื้อผ้า บ่อยกว่าซื้อยารักษาโรค ทุกอย่าง

เพราะฉะนั้น หากคุณจับคู่ข้อดีของธุรกิจอาหารทั้งสองประการ คือ "ทำได้ง่าย" และ "รวยได้ง่าย" ก็เห็นชัดเจนแล้วครับว่า ธุรกิจอาหารนี้ น่าทำขนาดไหน หากคุณอยากเริ่มแล้วล่ะก็ เริ่มได้แทบจะทันที และที่ผมจะเพิ่มข้อดีให้อีกข้อหนึ่งก็คือ "ใช้ทุนน้อย" เมื่อเทียบกับธุรกิจอย่างอื่น

เถ้าแก่น้อย เสี่ยตัน โออิชิ เป็นอย่างไรครับ ของกินทั้งนั้น

ถึงตรงนี้คุณคงตัดสินใจได้แล้วนะครับว่า ความฝันที่จะมีธุรกิจส่วนตัวของคุณไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว ถ้าคุณยังไม่รู้จะทำอะไร ก็ลองเริีมจากธุรกิจอาหารก็ได้ แล้วใช้มันต่อยอดไปหาความฝันอื่นๆของคุณ อย่างที่ใครหลายคนทำสำเร็จมาแล้ว

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลาออกจากงานประจํา ทําอะไรดี ลองดูไอเดียดีๆมากมายที่นี่

ลาออกจากงานประจํา ทําอะไรดี คำถามยอดฮิต สำหรับคนทำงานประจำทั้งหลาย บางคนไม่มีไอเดียเลยว่าจะทำอะไรรู้แต่ว่าอยากลาออก บางท่านลาออกจากงานประจำมา เพราะเบื่อเหลือเกิน แต่ยังไม่รู้ว่าจะมาทำอะไรดี อันนี้ แอดมินไม่สนับสนุนนะครับ แนะนำให้มีอะไรทำแน่วแน่ก่อนจะลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัว ถ้ายังหาคำตอบ ลองฟังไอเดียของผมดูนะครับ สำหรับคนที่เคยผ่านประสบการณ์มาแล้ว


1. ลาออกจากงานประจำ มาขายของ -- นี่เลยครับอาชีพยอดฮิต ของคนที่ลาออกจากงานประจำ บอกว่าอยากมีอาชีพอิสระ อยากออกมาขายของ อันนี้ลองคิดดูสักนิดนะครับว่า ลาออกจากงานประจำ มาขายของ แล้วอิสระจริงหรือเปล่า บางคนบอกออกไปขายของตลาดนัด บางคนไปเปิดร้านขายของ พอเจอจริงๆแล้ว ไม่อิสระอย่างที่คิด เพราะนั่งขายของ แม้แต่จะไปห้องน้ำยังไปไม่ได้เลย วันไหนจะหยุดงานก็หยุดไม่ได้ เพราะเสียดายตังค์ และไปเช่าที่เขาบางที่ เขาไม่ให้หยุดนะครับ ถ้าปิดร้านนี่โดนปรับนะครับ เพราะมันทำให้สถานที่โดยรวมเขาดูไม่ดี แต่้ข้อดีก็มี เพราะการขายของนั้น เป็นอาชีพที่เป็นสุขใจ เพราะทำเท่าไหร่ ได้เท่านั้น เงินมันเข้ากระเป๋าเนื้อๆตลอดเวลา หรือถ้าคุณจับผัดจับผลูดีๆ วางแผนดีๆ ขายเก่งๆการตลาดดีๆ ก็ลืมตาอ้าปากร่ำรวยกันได้มากมายแล้วนะครับ ดีกว่าเป็นลูกจ้างเขา ที่ทำจนแก่ตายจะมีเงินสะสมไปได้สักเ่ท่าไหร่กันเชียว เหนื่อยเปล่าทั้งชีวิตอยู่ดี ก็แล้วแต่จะคิดนะครับ
ลาออกจากงานประจำ ทำอะไรดี


2. ลาออกจากงานประจำ ทำเกษตร -- นี่ก็หนึ่งในความใฝ่ฝันยอดฮิตของคนทำงานประจำแบบหนึ่ง อยากจะลาออกจากงานประจำไปทำการเกษตร มีสวนเล็กๆ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ปลูกผัก ปลูกหญ้า กินมีชีวิตพออยู่พอกิน พอเพียงไปวันๆ ผมก็เป็นคนหนึ่งล่ะครับ ที่ใฝ่ฝันอย่างนั้น แต่บอกตามตรงยังไม่กล้าแฮะ เพราะความรู้ ความสามารถยังไม่เพียงพอ คงต้องศึกษาอีกนาน ครับ ถ้าใครบอกว่า จะลาออกจากงานประจำ ทำอะไรดี แล้วคิดจะทำการเกษตร นี่ต้องมั่นใจนะครับว่า เรามีความรู้ ความสามารถด้านการเกษตร เพียงพอ ที่จะนำพาตัวเองให้ทำการเกษตรไปรอดได้ ส่วนตัวแล้วแอดมินคิดว่า ยากครับ ลาออกจากงานประจำ ทำเกษตร นั้น ยากกว่า ลาออกจากงานประจำ มาขายของเยอะนะครับ ศึกษาให้ดีก่อน แล้วค่อยลงมือเต็มตัวนะจ๊ะ


เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณกำลังจะวางแผน ลาออกจากงานประจำ ทำอะไรดี หรือไม่ดีอย่างไร หรือคิดจะทำอะไร จำไว้นะครับ จะต้องวางแผนให้รอบคอบ วางหาทางหนีทีไล่ให้ดี เพราะสิ่งที่คุณกำลังจะเจอ มันอาจจะไม่สวยหรู เหมือนอย่างที่คุณคิดก็ได้ คิดเผื่อไว้ทั้งสองด้านก็ดีนะครับ ที่เตือนนี่ไม่ได้บอกว่า ไม่ให้คุณลาออกจากงานประจำ แต่ว่าอยากให้คุณลาออกมาแล้ว มีความสุขจริงๆ ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ตามเป้าหมายที่คุณวางไว้จริงๆนะครับ เพราะแท้จริงแล้ว ความสุขต่างหากเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องการ ความร่ำรวย หรือเงินทอง นั้นเป็นสิ่งที่ คนเราคิดไปเองว่าจะนำพาซึ่งความสุขมาให้ ซึ่งบางครั้ง บางกรณีมันไม่จริงเลยครับ ยิ่งรวย ยิ่งมีภาระผูกพันมาก มีอะไรให้ดูแลมากเป็นเงาตามตัว

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ธุรกิจส่วนตัว กับงานประจํา ที่ทำไปด้วยกันได้ มีมากมาย อ่านไอเดียมากมายที่นี่

หลายๆคนที่ฝันอยากมีธุรกิจส่วนตัว แต่ทำงานประจำอยู่ จะทำอย่างไรดี บางคนท้อแท้หรือใช้เป็นข้ออ้างว่า ฉันทำงานประจำอยู่ไม่ีมีทางหรอกที่จะไปมีเวลาสร้างธุรกิจส่วนตัวได้ ลำพังแค่งานประจำก็กินเวลาฉันไปหมดแล้ว จะเอาเวลาที่ไหน ถ้าคิดอย่างนี้ก็จบสิครับ ความจริง ธุรกิจส่วนตัว กับงานประจำนั้น สามารถไปด้วยกันได้แน่นอน ไม่ว่าคุณจะทำงานประจำยากลำบากขนาดไหน ใช้เวลามากแค่ไหน ขอแค่มีความฝักใฝ่ อดทน พยายาม รับรองว่า ฝันที่จะมีธุรกิจส่วนตัว ของพนักงานประจำเป็นไปได้แน่นอน มาลองฟังไอเดียของผมเป็นแนวทางกันนะครับ สองแนวทางง่ายๆ ที่ใครๆก็นำไปใช้ได้ ขอให้ตั้งใจจริงก็พอ


1. ทำมาหากินออนไลน์ - คำว่าทำมาหากินออนไลน์นี้มีเยอะมากและหลากหลายมากนะครับ เริ่มตั้งแต่พื้นฐานคือคุณเปิดเว็บไซต์ขายของ ก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่มีคนช่วยรับออเดอร์มา ก็ต้องงุบงิบๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะลำบาก และไม่ค่อยดีส่งผลเสียกับงานประจำได้ แล้วแต่ช่องทางของแต่ละท่านนะครับ แต่จริงๆแล้ว หากคุณลองหาข้อมูลดีๆ การทำมาหากินออนไลน์นั้นยังมีอีกหลายช่องทางมาก ไม่จำเป็นต้องทำแค่ขายของอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีทางเลือกให้คุณอีกมากมาย เช่น ขายโฆษณา ทำ pay per click หรืออื่นๆ ซึ่งถ้าคุณศึกษาให้ดีแล้ว บอกได้เลยครับว่า ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำมากกว่าการขายของเยอะ แถมไม่ต้องลงทุนมากมายเหมือนขายของอีกด้วย ลองศึกษาดูนะครับ

ธุรกิจส่วนตัว กับงานประจำ


2. หาผู้ร่วมทุน - หนทางหนึ่งที่ทำได้ แต่คนทำงานประจำไม่ค่อยทำกันก็คือ คุณจะทำธุรกิจอะไรก็ได้ แต่ให้ศึกษาวิธีการบริหารจัดการดีๆ และหาผู้ร่วมทุนลงแรงเก่งๆแค่นั้นก็พอแล้วครับ แค่นี้ ธุรกิจส่วนตัว กับงานประจำ ก็ไปด้วยกันได้สวยแน่ๆ แต่สาเหตุที่เราไม่ค่อยจะทำกัน ก็เพราะว่า เราไม่ไว้ใจคนครับ ซึ่งก็ไม่ผิดหรอก เพราะคนสมัยนี้มันน่าไว้ใจเสียที่ไหน แต่คุณลองคิดดู เศรษฐีใหญ่ๆล้วนแล้วแต่ให้คนอื่นทำงานแทนให้ทั้งนั้น ไม่ใช่เพราะเขาไว้ใจจนมากเกินขอบเขต แต่เขาสร้างระบบขึ้นมา เพื่อให้คนอื่นทำงานแทน หรืออย่างน้อยก็ทำงานร่วมกัน เป็นไปได้แน่นอนครับ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจเล็กๆ หรือใหญ่ๆ ระบบการตรวจสอบต่างๆ สามารถทำให้เป็นมาตรฐานได้ ขอเพียงคุณต้องใส่ใจเท่านั้น ถ้าคุณเป็นคนไม่ใส่ใจ ตรวจตรา ตรวจสอบ อย่าว่าแต่ ธุรกิจส่วนตัว กับงานประจำ เลยครับ จะงานประจำอย่างเดียว หรือ ทำอะไร มันก็ไม่รุ่งทั้งนั้น เพราะฉะนั้น กล้าๆ หาคนมาทำงานแทนครับ แล้วหมั่นตรวจสอบด้วยระบบที่เราสร้างขึ้นมา แค่นี้ ธุรกิจส่วนตัว กับงานประจำ ก็ไปได้สวย รอวันที่ ธุรกิจส่วนตัวของคุณจะงอกงามเจริญรุ่งเรืองก่อน แล้วค่อยลาออกมาทำเต็มตัว ให้มันสะใจไปเลยครับพี่น้อง

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ธุรกิจส่วนตัว ลงทุนน้อย รายได้ดี กำไรงาม ตั้งตัวได้ มีไหมนะ ไอเดียดีๆที่นี่

อุปสรรค ประการหนึ่ง ของคนที่อยากมีธุรกิจส่วนตัว ที่ผมได้ยินบ่อยๆก็คือ "ไม่มีทุน" หลายๆคนติดกับดัก กับคำว่า ไม่มีทุน จึงไม่ลงมือทำอะไรเสียที คิดไปว่า ธุรกิจส่วนตัว ลงทุนน้อย รายได้ีดี เกิดไม่ได้ ไม่มีทางจะสู้กับรายใหญ่ๆได้ แล้วก็เลิกล้ม ความคิด ความฝันของตัวเองไปเสียอย่างนั้น

ในความเป็นจริงแล้วท่านทราบหรือเปล่าครับว่า ข้อเท็จจริงประการหนึ่งของเศรษฐีไม่ว่าจะยุคใด สมัยใด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็คือ พวกเขาล้วนสร้างตัวขึ้นมาจากมือเปล่า คนรวย ทุกคนล้วนผ่านช่วงเวลาแห่งการไม่มีทุนมาแล้วทั้งสิ้น ทุกคนล้วน เริ่มทำ ธุรกิจส่วนตัว ลงทุนน้อย มาแล้วทั้งสิ้น ทำไมพวกเขาจึงทำได้ ทำไมเขาถึงผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ล่ะครับ

จริงๆแล้ว เคล็ดลับของ ธุรกิจส่วนตัว ลงทุนน้อย มีอยู่ข้อเดียว เป็นกฎเลยครับ

"มีเงินน้อย ใช้แรงมาก เมื่อมีเงินมากขึ้นแล้ว จึงใช้แรงน้อยลง"

หากคุณอยากจะเปิดร้านสักร้านหนึ่ง แทนที่จะคิดจ้างลูกจ้างสี่ห้าคน ตั้งแต่แรก คุณอาจต้องยอมเหนื่อยหน่อย ทำทุกอย่างเอง จ่ายตลาดเอง ทำกับข้าวเอง มีลูกน้องคอยจดออเดอร์และ เสริฟ์อาหารคนเดียวก็พอ แล้วเมื่อธุรกิจเริ่มเติบโตขึ้น เริ่มสะสมทุนได้แล้ว ก็ค่อยๆก้าวต่อไป จ้างคนมากขึ้น สะสมทุนให้มากขึ้น อย่างนี้แล้ว คำว่า ธุรกิจส่วนตัว ลงทุนน้อย รายได้ดี ก็เป็นไปได้แน่นอนครับ

อีกตัวอย่างหนึ่งที่ดีมากๆ ของการทำธุรกิจส่วนตัว ลงทุนน้อย ก็คือ ลองคิดสิครับ ว่าคุณมีทักษะส่วนตัวอะไรบ้าง หรือคุณรักในสิ่งใดบ้าง ที่จะนำมันมาหาเงินหาทองได้ เรียกว่าใช้แรง ใช้ทักษะเข้าแลกไปก่อน โดยยังไม่ต้องใช้เงิน ยกตัวอย่างเช่น บางคน ว่ายน้ำเก่งมาก ก็ลองเป็นครูสอนว่ายน้ำดู บางคนรู้ว่าตัวเองเก่งคณิตศาสตร์ หรือชอบเรียนเลขมาก ก็ทบทวนบทเรียนสักหน่อย แล้วก็เปิดสอนพิเศษคณิตศาสตร์ดู เริ่มต้นจากตัวเอง จากทักษะที่ตัวเองมีก่อน ถ้าทุกอย่างดีขึ้น มีชื่อเสียงขึ้น แล้วค่อยๆขยาย ค่อยเป็นค่อยไปนะครับ แล้วพอถึงจุดหนึ่ง ธุรกิจคุณจะเป็นจรวดเลยแน่นอน ขออย่างเดียว อย่ายอมแพ้ อย่าหยุดกลางคันก็พอ


ธุรกิตส่วนตัว ลงทุนน้อย
ธุรกิจส่วนตัว ลงทุนน้อย รายได้ดี


ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจที่ลงทุนเยอะ ก็ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป ต่อให้คุณมีทุนมากขนาดไหน หรือต่อให้คุณคิดว่า คุณมีทุนมากแค่ไหน หากใช้ไม่ถูกทาง ก็ไปไม่รอดได้นะครับ เคยเห็นไหมครับ ร้านอาหาร ที่เปิดอย่างหรูหรา มีพนักงานเป็นสิบ ดูดีเหลือเกิน แต่กลับอยู่ได้ไม่นาน ไม่กี่เดือนก็ถมเถไป เพราะฉะนั้น อย่่าไปติดกับคำว่า ทำธุรกิจส่วนตัว จะต้องมีทุนหนาเสมอไป หากเรารู้จักใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่อย่างจำกัดอย่างถูกต้อง อย่างถูกทาง และค่อยเป็นค่อยไป ความสำเร็จ อยู่ไม่ไกล อย่างแน่นอนครับ ผมรับประกัน

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำธุรกิจส่วนตัวอะไรดี ทำแล้วรวย ตอนที่ 2: ธุรกิจความสวยความงาม

หากท่านก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังครุ่นคิดอยู่ทุกวันว่า จะทำธุรกิจส่วนตัวอะไรดี จะเริ่มยังไงดี ที่ทำแล้วรวย ตอนต่อๆไป ผมจะค่อยๆให้แนวคิดกับทุกท่านนะครับ ถึงข้อดี ข้อเสียของธุรกิจแต่ละประเภท ว่าธุรกิจอะไรดีที่ทำแล้วรวย

ธุรกิจความสวย ความงาม

เพราะอะไร ทำธุรกิจความสวย ความงามแล้วถึงรวย

สำหรับคุณผู้ชายหลายๆท่าน  อาจจะไม่เข้าใจนะครับว่า ความสวย ความงามสำคัญมากเพียงใด สำหรับผู้หญิง (และผู้ชายหลายท่านๆ ปัจจุบันนี้) จะลองฉายภาพง่ายๆให้ฟังครับ ท่านทราบหรือเปล่าครับว่า ประชากรไทยนั้น ใช้จ่ายไปกับเครื่องสำอางค์และผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามไปเท่าไหร่ในแต่ละเดือนเป็นค่าเฉลี่ย ว่ากันแบบทั่วประเทศเลยนะครับ คิดดูก่อนครับ............ เฉลยคืออยู่ที่หลัก พันกว่าบาทเชียวนะครับ มากนะครับ ถ้าเทียบกับในชีวิตประจำวันของคนหาเช้ากินค่ำที่จะต้องเจียดไปจ่ายค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าชาเขียว (จริงๆนะเดี๋ยวนี้) และอื่นๆอีกมากมาย ก็ยังเจียดเงินไปจ่ายค่าเครื่องสำอางค์ได้ถึงพันกว่าบาท เยอะนะครับ เห็นหรือยังครับ คูณจำนวนประชากรไปเจ็ดสิบล้าน คร่าวๆ เดือนๆหนึ่งจะมีเงินหมุนเวียน ในธุรกิจความสวย ความงาม หลายหมื่นล้านแล้วนะครับ

เศรษฐีเกิดใหม่ ใครๆก็มาจากธุรกิจ ความสวย ความงาม

อีกประเด็นหนึ่งที่เราสังเกตได้ง่ายมากว่า ทำไมทำธุรกิจความสวย ความงาม แล้วถึงรวย

สังเกตข้อเท็จจริงง่ายๆนะครับ เศรษฐีทั้งใหม่ๆ ในประเทศไทย ที่ออกทีวี เป็นแรงบันดาลใจให้เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ นอกจากมาจากธุรกิจอาหารแล้ว ร้อยทั้งร้อย ก็มาจากธุรกิจความสวย ความงามทั้งนั้น บางคนก็ควบ เป็นอาหารเพื่อความสวยความงามไปเลยก็ยิ่งเก๋ไปกันใหญ่ครับ ไม่ว่าจะเป็น กาแฟลดความอ้วน เนเจอร์กิฟ เครื่องดื่มเพื่อความสวยงาม ที่ภาษาัอังกฤษ เรียกว่า functional drink อย่าง Sappe ก็เหมือนกัน หรือจะเป็นเครื่องสำอางค์ SPA ส่งนอก กระชับน้องหนู แม่หนู กลูตา สารพัด ติดตลาดขึ้นมาก็รวยทั้งนั้นครับ รู้อย่างนี้แล้ว อยากจะกระโดดลงมาที่ธุรกิจความสวย ความงามกันแล้วหรือยังครับ....

ธุรกิจความสวย ความงาม ลงทุนน้อย แต่ตลาดกว้าง 

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ธุรกิจ ความสวย ความงามก็คือ มีตลาดให้เล่นเยอะมากครับ คุณมองไปสิครับ ประชากรไทย ทุกประเภท ต้องเกี่ยวข้องกับความสวย ความงามทั้งนั้น ขอแค่คุณกุมหัวใจ ลูกค้าได้กลุ่มเดียว ก็รวยสบายไปทั้งชาติแล้ว คนผิวคล้ำ ก็อยากจะขาว คนอวบ ก็อยากจะอวบน้อยลง คนมีอายุ ก็อยากจะดูเด็ก ผู้ชายบางคนอยากจะดูเหมือนผู้หญิง คนรายได้น้อย อยากจะสวยเหมือนผู้ดี รายได้เยอะ วัยรุ่น อยากจะสวยใส ให้หนุ่มหลงไหล ชายหนุ่มอยากจะดูขาวล่ำ ให้สาว หรือหนุ่มด้วยกันหลง คนไทยอยากจะขาวเหมือนฝรั่ง เหมือนเกาหลี แต่ฝรั่ง อยากจะสีแทนคล้ำเหมือนคนไทย โอยเยอะแยะไปหมด บางที ธุรกิจนี้ จะอยู่คู่กับมนุษย์ไป ตราบที่เรายังมีความทะยานอยากไ่ม่รู้จักพอนั่นแหละครับ ไม่ต้องกลัวเลยว่า มันไม่ใช่ปัจจัยสี่แล้ว จะขายไม่ออก มนุษย์บางคนไม่มีจะกิน แต่ก็ยังต้องสวย เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าดูดีเลย


ในขณะที่ตลาดของธุรกิจ ความสวย ความงาม นั้นกว้างใหญ่ไพศาล แต่การลงทุนกลับตรงกันข้าม หากคุณอยากจะมีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเอง คิดให้เสร็จแล้วเดินเข้าไปหา โรงงานรับทำเครื่องสำอางค์ ที่มีอยู่มากมาย ตอนนี้เลยครับ ไปคุยกับเขา ไปเสนอไอเดีย เขาพร้อมจะรับจ้างผลิต และขออนุญาตให้คุณตั้งแต่ต้นจนจบ รวยด้วยกัน ง่ายกว่า ใช้เงินน้อย เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ (หากคุณต้องการนำเข้าเครื่องจักรกลมาขาย ก็ต้องสิบล้านอัพครับ ยกตัวอย่าง) แล้วพอแบรนด์คุณติดแล้ว ก็ค่อยๆ เพิ่มกำลังการผลิตเข้าไป ซึ่งเจ้าของสินค้าเครื่องสำอางค์แบรนด์ดังหลายแบรนด์ในประเทศไทย ปัจจุบัน ก็จ้างผลิตอย่างนี้ทั้งนั้นครับ


ผมบรรยายไปอย่างนี้ ถ้าคุณมีวิญญาณของผู้ประกอบการ สมองต้องหลั่งสารออกมาคิดแล้วนะครับ ว่าถ้าฉันจะทำธุรกิจส่วนตัว ด้านความสวย ความงาม จะเจาะกลุ่มไหน ทำอะไร และทำอย่างไร

โชคดีครับ เหล่าผู้ประกอบการและผู้ใฝ่ฝันที่จะมีธุรกิจส่วนตัวทุกท่าน