คุณสามารถที่จะรู้ได้ว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะขยายธุรกิจส่วนตัวต่อไป ด้วยการวัดผลที่เป็นรูปธรรมง่ายๆ ทั้งนี้คุณต้องเข้าใจก่อนว่า บทความทั้งหมดของผมจะเน้นไปที่ SMEs เป็นหลัก เพราะหากไม่ใช่ SMEs แล้วคุณสามารถไปจ้างบริษัทวิจัย หรือบริษัท audit บัญชีมาตรวจสอบสภาพความพร้อมของบริษัทของคุณได้ โดยที่ไม่ต้องใช้หมวดสถิติและความรู้สึกอะไรกันมากมาย
แต่ในเมื่อความเป็นจริง คุณไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ด้วย ขนาดธุรกิจและปัจจัยทางการเงินรวมถึงทรัพยากรต่างๆ SMEs จึงต้องมีวิธีการในการวัดผลตนเองว่า ถ้าออกศึกครั้งใหม่จะมีแนวโน้มที่จะรบชนะ และไม่โดนข้าศึกเก่ามาชิงเมืองหลวงไป
ประการแรก ก็คือเรื่องเงินนั่นเองครับ ตรวจสอบสภาพความพร้อทางด้านการเงินของตนเอง ประเมินเงินลงทุนที่จะต้องใช้ในธุรกิจใหม่ และเทียบกับเงินที่เรามีอยู่ ถ้าจำเป็นต้องกู้ เรามีสภาพคล่องเพียงพอที่จะจ่ายได้แค่ไหนอย่างไร ธุรกิจส่วนตัวเดิมเราจะหมุนมาจ่ายได้ไหม อันนี้ Judegement ก็ต้องแล้วแต่สไตล์ของคนว่า เป็นคนกล้าลุยกล้าเสี่ยงขนาดไหน แต่สำหรับผมแล้ว เป็นสไตล์อนุรักษ์นิยมจ๋านะครับ ถ้าเงินไม่พอ เราไม่ก้าวเด็ดขาด ต้องแบบเจ๊งก็ไม่เจ็บจะครับ ถึงจะยอมไป ก็แล้วแต่สไตล์ครับ
ประการที่สอง เวลา ถ้าคุณยังต้องจัดการธุระทุกอย่างในธุรกิจเดิมของคุณเองอยู่ จนหัวไม่ได้วาง หางไม่ได้เว้นแล้วล่ะก็ อาจจะต้องคิดดูว่าจะบั่นทอนชีวิตตัวเองเพิ่มดีหรือไม่ จะได้ประโยชน์หรือเปล่า ถ้าคุณคิดจะทำแล้วอาจจะต้องเริ่มผ่องถ่ายอะไรๆ ที่มันไม่จำเป็น หรือที่มันไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าของธุรกิจ ออกไปให้คนอื่น ให้ลูกน้องหรือคนที่ไว้ใจได้ เพื่อให้คุณออกไปลุยได้อย่างเต็มที่ หรือจะคิดส่งแม่ทัพออกไปลุยแทนก็ต้องเอาคนที่มันเด็ดดวงจริงๆ ได้ดั่งใจมากที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้ว หาได้ยากจริงๆในฐานะ SMEs คนที่จะมาทำให้เราแบบนี้ก็คงต้องการค่าตอบแทนสูงจริงๆ ซึ่งกับการบุกเบิกธุรกิจใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะลูกผี ลูกคน เราจะพร้อมจ่ายขนาดนั้นหรือครับ ส่วนมากเราก็ต้องมานั่งทำกันเองมากกว่า
ส่วนประการสุดท้ายก็เป็นเรื่องธุรกิจรอบใหม่ที่เราจะไปลง ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อันนี้ก็ต้องแล้วแต่วิชาของแต่ละคนที่จะบุกเบิกกันเอง
เมื่อคุณพิจารณาสามประการนี้อย่างรอบคอบและถ่องแท้แล้ว ก็ถึงเวลาแล้วครับ ที่จะลุยกันอย่างเต็มตัว ฮึกเหิมกันแล้วนะครับ เตรียมตัวเจอกันในตอนหน้าได้เลยครับ