วันนี้จะขอว่ากันด้วยเรื่องของ China Complex อีกสักวันนะครับ เพราะพอดี ได้มีโอกาส ขับรถผ่านไปแถวบริเวณบางนา ที่เชื่อว่าน่าจะสร้างไชน่าคอมเพล็กซ์ ต้องยอมรับนะครับว่ามันใหญ่มากกก ใหญ่โตอลังการงานสร้างจริงๆ แค่จำนวนปั้นจั่นก็นับไม่ถ้วนแล้ว
เห็นแล้วผมนึกโศกเศร้าไปกับธุรกิจน้อยๆในเมืองไทยอีกหลายแห่ง และก็แอบเห็นแก่ตัวดีใจเล็กๆที่ธุรกิจของตนเองไม่ได้ไปข้องแวะกับความเปลี่ยนแปลงตรงนี้สักเท่าไหร่ ผมสังเกตดูว่าทำเล ทุกอย่างดูเหมาะเจาะลงตัวไปหมด ทั้งขนาด ทั้งทำเลที่เป็น
จุดใหญ่ใจความที่จะเข้าศูนย์กลางกรุงเทพ มีทางด่วนวิ่งจากแหล่งอื่นๆ มาลงได้ในเวลาอันรวดเร็วปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่มีชุมชน หมู่บ้าน จำนวนมากในบริเวณนั้น
และที่สำคัญคือการคมนาคมขนส่ง ที่มีสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ไม่ไกล และท่ารถบรรทุก รวมถึงท่าเรือคลองเตยก็อยู่ไม่ไกลเลยจากบริเวณนั้น จะเห็นว่านี่มันทำเลทอง ทำเลเพชรจริงๆครับ
ไม่แปลกเลยที่ผู้ประกอบการชาวไทยจะเฮโลกันออกมาส่ายหน้าร้องไอ้หยา ไม่อยากให้ไชน่าซิตี้คอมเพล็กซ์เข้ามาเปิดในบ้านเรา ยกเว้นผู้ประกอบการด้านรับเหมาก่อสร้าง หรือวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ๆนั่นแหละครับที่ยิ้มแฉ่งกับผลประโยชน์มหาศาลร่วมหลายหมื่นล้านที่อาเฮีย อาซ้อจะนำมาพร้อมกับโครงการไชน่าซิตี้คอมเพล็กซ์นี้
ใครยังไม่เคยดู ถ้ามีโอกาสก็แวะไปดูกันนิดหน่อยได้นะครับ อย่างน้อยจะได้เป็นแรงกระตุ้นให้เราเริ่มคิดเริ่มทำอะไรบางอย่างกับธุรกิจของเรา ไม่ให้ตายจากไปกับการมาของพญามังกรในครั้งนี้ นึกๆเปรียบไปกับสามก๊กต้องบอกว่ามาครั้งนี้เหมือนโจโฉยกทัพเรือร้อยหมื่นมาที่ปากแม่น้ำเลยครับ แต่อนิจจาครับ เมืองไทยทุกวันนี้หาจิวยี่ หรือขงเบ้งไม่เจอสักหัวเดียว
แบ่งปันประสบการณ์ เรื่องราวๆ ความรู้ไอเดีย ทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัว สำหรับคนที่กำลังอยากมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง หรือมีธุรกิจแล้วและต้องการขยายธุรกิจส่วนตัวของตนต่อไปอย่างยั่งยืน (https://www.facebook.com/Thai.SMEs.Knowledge)
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไชน่าคอมเพล็กซ์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ไชน่าคอมเพล็กซ์ แสดงบทความทั้งหมด
วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
SMEs จะปรับตัวอย่างไรดี เมื่อเจอไชน่าคอมเพล็กซ์
วันนี้ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งนะครับ จะเ่ล่าถึงอะไรที่มันปัจจุบันทันด่วนกันสักนิด ผมได้พูดคุยกับบรรดาเพื่อนๆผู้ประกอบการ SMEs ทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกที่ค้าขาย แบบซื้อมา ขายไป รายกลาง รายใหญ่ทั้งหลายมีความกังวลกันในระดับสูงทีเดียวกับการมาของไชน่าคอมเพล็กซ์ ศูนย์ขายส่งสินค้ารายใหญ่จากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
ถามว่าทำไมต้องกลัวกันนักหนาล่ะ ก็เพราะว่า ใครๆก็ทราบว่าของจากประเทศจีนถูกกว่า แต่เมื่อก่อนอาจจะมี barrier ในเรื่องที่ว่าเขาต้องนำเข้ามา ผ่านผู้ประกอบการ หรือผ่าน trading ต่างๆ วันนี้ภาครัฐที่น่ารักอย่างยิ่งของเราก็เปิดประตูให้เหล่าพ่อค้า นักธุรกิจชาวจีนเข้ามาเปิดศูนย์ขายส่งสินค้าเองซะเลย อย่างนี้มันจะถูกขนาดไหนครับ คิดดู แล้วศูนย์ขายส่งเขาก็ใหญ่โต มโหฬาร มีแอร์ มีที่นั่ง มีที่จอดรอสะดวกสบาย อย่างนี้ใครจะอยากไปร้อนตับแตก ทะเลาะกับแม่ค้า ที่สำเพ็ง โบ๊เบ็ ประตูน้ำกันอีก น่ากลัวไหมครับ สำหรับผมขอบอกว่า น่ากลัวมาก กลัวเหลือเกินว่าตำนานย่านค้าส่งของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีมาเป็นร้อยปี จะต้องจบลงด้่วยน้ำมือคนจีนด้วยกันก็คราวนี้เอง
แต่จะว่าก็ว่าเถิดครับ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า รักจะทำธุรกิจต้องไม่กลัวความเปลี่ยนแปลง ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ข้อดีคือตอนนี้เรารู้ก่อน เราจะคิดได้ก่อน เราต้องเตรียมรับมือกันก่อนครับ ใครยังวางใจอยู่เฉยๆ ตอนนี้ก็ตัวใครตัวมันนะครับ แต่สำหรับผมอยากจะเสนอไอเดียกว้างๆถึงวิธีการปรับตัวของผู้ประกอบการ SMEs เอาไว้หลายๆข้อดังนี้นะครับ
1. เมื่อเป็นศัตรูกันไม่ได้ก็มาเป็นมิตรกันดีกว่า -- ลองเปิดหู เปิดตาดูกว้างๆนะครับ ไชน่าคอมเพล็กซ์เขาก็จะแบ่งพื้นที่ให้พวกเราเข้าไปเช่าได้ด้วย ลองดูลู่ทางนี้ว่าเรามีอะไรไปตีตลาดเขาบ้าง
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราขึ้นมาเอง -- สร้างแบรนด์ของเราขึ้นมาเอง หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีข้อแตกต่างโดดเด่นขึ้นมา
3. พัฒนารูปแบบและช่องทางการขายใหม่ๆ -- ลองดูซิว่า E-Commerce จะช่วยเราได้ไหม หรือการไปเหยียบจมูกพญามังกร ตั้งบริษัทมันซะที่เมืองจีน หรือประเทศที่สามเองเลย เพื่อขายส่งสินค้าของเราออกไปบ้าง
เท่าที่จะคิดได้ก็พอจะแนะนำได้เท่านี้นะครับ แต่ไม่ว่าคุณจะคิดอะไรจะทำอะไรแค่ไหน ต้องขอบอกสิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้นะครับว่า คุณต้องรีบแล้วครับ อยู่เฉย นิ่งดูดายไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวแล้วครับ
ถามว่าทำไมต้องกลัวกันนักหนาล่ะ ก็เพราะว่า ใครๆก็ทราบว่าของจากประเทศจีนถูกกว่า แต่เมื่อก่อนอาจจะมี barrier ในเรื่องที่ว่าเขาต้องนำเข้ามา ผ่านผู้ประกอบการ หรือผ่าน trading ต่างๆ วันนี้ภาครัฐที่น่ารักอย่างยิ่งของเราก็เปิดประตูให้เหล่าพ่อค้า นักธุรกิจชาวจีนเข้ามาเปิดศูนย์ขายส่งสินค้าเองซะเลย อย่างนี้มันจะถูกขนาดไหนครับ คิดดู แล้วศูนย์ขายส่งเขาก็ใหญ่โต มโหฬาร มีแอร์ มีที่นั่ง มีที่จอดรอสะดวกสบาย อย่างนี้ใครจะอยากไปร้อนตับแตก ทะเลาะกับแม่ค้า ที่สำเพ็ง โบ๊เบ็ ประตูน้ำกันอีก น่ากลัวไหมครับ สำหรับผมขอบอกว่า น่ากลัวมาก กลัวเหลือเกินว่าตำนานย่านค้าส่งของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีมาเป็นร้อยปี จะต้องจบลงด้่วยน้ำมือคนจีนด้วยกันก็คราวนี้เอง
แต่จะว่าก็ว่าเถิดครับ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า รักจะทำธุรกิจต้องไม่กลัวความเปลี่ยนแปลง ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ข้อดีคือตอนนี้เรารู้ก่อน เราจะคิดได้ก่อน เราต้องเตรียมรับมือกันก่อนครับ ใครยังวางใจอยู่เฉยๆ ตอนนี้ก็ตัวใครตัวมันนะครับ แต่สำหรับผมอยากจะเสนอไอเดียกว้างๆถึงวิธีการปรับตัวของผู้ประกอบการ SMEs เอาไว้หลายๆข้อดังนี้นะครับ
1. เมื่อเป็นศัตรูกันไม่ได้ก็มาเป็นมิตรกันดีกว่า -- ลองเปิดหู เปิดตาดูกว้างๆนะครับ ไชน่าคอมเพล็กซ์เขาก็จะแบ่งพื้นที่ให้พวกเราเข้าไปเช่าได้ด้วย ลองดูลู่ทางนี้ว่าเรามีอะไรไปตีตลาดเขาบ้าง
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราขึ้นมาเอง -- สร้างแบรนด์ของเราขึ้นมาเอง หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีข้อแตกต่างโดดเด่นขึ้นมา
3. พัฒนารูปแบบและช่องทางการขายใหม่ๆ -- ลองดูซิว่า E-Commerce จะช่วยเราได้ไหม หรือการไปเหยียบจมูกพญามังกร ตั้งบริษัทมันซะที่เมืองจีน หรือประเทศที่สามเองเลย เพื่อขายส่งสินค้าของเราออกไปบ้าง
เท่าที่จะคิดได้ก็พอจะแนะนำได้เท่านี้นะครับ แต่ไม่ว่าคุณจะคิดอะไรจะทำอะไรแค่ไหน ต้องขอบอกสิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้นะครับว่า คุณต้องรีบแล้วครับ อยู่เฉย นิ่งดูดายไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวแล้วครับ
ป้ายกำกับ:
ไชน่าคอมเพล็กซ์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)