วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

SMEs จะปรับตัวอย่างไรดี เมื่อเจอไชน่าคอมเพล็กซ์

วันนี้ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งนะครับ จะเ่ล่าถึงอะไรที่มันปัจจุบันทันด่วนกันสักนิด ผมได้พูดคุยกับบรรดาเพื่อนๆผู้ประกอบการ SMEs ทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกที่ค้าขาย แบบซื้อมา ขายไป รายกลาง รายใหญ่ทั้งหลายมีความกังวลกันในระดับสูงทีเดียวกับการมาของไชน่าคอมเพล็กซ์ ศูนย์ขายส่งสินค้ารายใหญ่จากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่



ถามว่าทำไมต้องกลัวกันนักหนาล่ะ ก็เพราะว่า ใครๆก็ทราบว่าของจากประเทศจีนถูกกว่า แต่เมื่อก่อนอาจจะมี barrier ในเรื่องที่ว่าเขาต้องนำเข้ามา ผ่านผู้ประกอบการ หรือผ่าน trading ต่างๆ วันนี้ภาครัฐที่น่ารักอย่างยิ่งของเราก็เปิดประตูให้เหล่าพ่อค้า นักธุรกิจชาวจีนเข้ามาเปิดศูนย์ขายส่งสินค้าเองซะเลย อย่างนี้มันจะถูกขนาดไหนครับ คิดดู แล้วศูนย์ขายส่งเขาก็ใหญ่โต มโหฬาร มีแอร์ มีที่นั่ง มีที่จอดรอสะดวกสบาย อย่างนี้ใครจะอยากไปร้อนตับแตก ทะเลาะกับแม่ค้า ที่สำเพ็ง โบ๊เบ็ ประตูน้ำกันอีก น่ากลัวไหมครับ สำหรับผมขอบอกว่า น่ากลัวมาก กลัวเหลือเกินว่าตำนานย่านค้าส่งของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีมาเป็นร้อยปี จะต้องจบลงด้่วยน้ำมือคนจีนด้วยกันก็คราวนี้เอง



แต่จะว่าก็ว่าเถิดครับ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า รักจะทำธุรกิจต้องไม่กลัวความเปลี่ยนแปลง ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ข้อดีคือตอนนี้เรารู้ก่อน เราจะคิดได้ก่อน เราต้องเตรียมรับมือกันก่อนครับ ใครยังวางใจอยู่เฉยๆ ตอนนี้ก็ตัวใครตัวมันนะครับ แต่สำหรับผมอยากจะเสนอไอเดียกว้างๆถึงวิธีการปรับตัวของผู้ประกอบการ SMEs เอาไว้หลายๆข้อดังนี้นะครับ



1. เมื่อเป็นศัตรูกันไม่ได้ก็มาเป็นมิตรกันดีกว่า -- ลองเปิดหู เปิดตาดูกว้างๆนะครับ ไชน่าคอมเพล็กซ์เขาก็จะแบ่งพื้นที่ให้พวกเราเข้าไปเช่าได้ด้วย ลองดูลู่ทางนี้ว่าเรามีอะไรไปตีตลาดเขาบ้าง
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราขึ้นมาเอง -- สร้างแบรนด์ของเราขึ้นมาเอง หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีข้อแตกต่างโดดเด่นขึ้นมา
3. พัฒนารูปแบบและช่องทางการขายใหม่ๆ -- ลองดูซิว่า E-Commerce จะช่วยเราได้ไหม หรือการไปเหยียบจมูกพญามังกร ตั้งบริษัทมันซะที่เมืองจีน หรือประเทศที่สามเองเลย เพื่อขายส่งสินค้าของเราออกไปบ้าง



เท่าที่จะคิดได้ก็พอจะแนะนำได้เท่านี้นะครับ แต่ไม่ว่าคุณจะคิดอะไรจะทำอะไรแค่ไหน ต้องขอบอกสิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้นะครับว่า คุณต้องรีบแล้วครับ อยู่เฉย นิ่งดูดายไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวแล้วครับ